Adobe Firefly | รายละเอียดสินค้า

เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025

การชดใช้ค่าเสียหายสำหรับ Firefly IP

หากคุณเป็นลูกค้าและข้อตกลงของคุณกับ Adobe มีลิงก์ไปยัง URL ของหน้านี้ รายการด้านล่างต่อไปนี้จะเป็นรายการคุณสมบัติ Firefly ที่เข้าเกณฑ์, พื้นผิว Firefly ที่เข้าเกณฑ์ และการดำเนินการการส่งออกที่เข้าเกณฑ์การชดใช้ค่าเสียหายสำหรับ Firefly IP Adobe อาจอัปเดตส่วนนี้เป็นครั้งคราวเพื่อระบุฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เพิ่มเติม

คุณสมบัติ Firefly ที่เข้าเกณฑ์ (1)

คำอธิบาย

ณ วันที่ 16 สิงหาคม 2023

ข้อความเป็นรูปภาพ

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่พรอมต์แบบข้อความเพื่อสร้างเอาต์พุตในรูปแบบไฟล์รูปภาพได้

ณ วันที่ 13 กันยายน 2023

การเติมโดย AI

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเนื้อหาให้รูปภาพที่มอบไว้ได้ โดยต้องระบุบริเวณต่างๆ ของรูปภาพอย่างน้อยหนึ่งส่วน นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกใส่พรอมต์ข้อความได้อีกด้วย

การขยายโดย AI และขยายรูปภาพ

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขยายขนาดรูปภาพโดยขยายผ้าใบด้วยรูปภาพที่สร้างขึ้นด้วยคำสั่งอย่างน้อยหนึ่งคำสั่ง นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกใส่พรอมต์ข้อความได้อีกด้วย

เอฟเฟ็กต์ข้อความ

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้พรอมต์บรรยายรูปภาพแบบข้อความเท่านั้น สร้างเอาต์พุตในรูปแบบของไฟล์รูปภาพอย่างน้อยหนึ่งไฟล์ที่มีการใส่เอฟเฟ็กต์เปลี่ยนเป็นรูปร่างตัวอักษรหรือตัวอักขระได้


ไม่รวมรูปร่างตัวอักษรและตัวอักขระต่างๆ ที่ผู้ใช้เลือกซึ่งมีการใช้งานรูปภาพ (เช่น เอฟเฟ็กต์ข้อความ) ที่สร้างจาก Firefly (เช่น รูปร่างตัวอักษร "H" จะไม่นับเป็นเอาต์พุต Firefly แต่รูปภาพเอฟเฟ็กต์ข้อความต่างๆ ที่วาดจากรูปร่าง เช่น รูปดอกไม้ต่างๆ จะนับเป็นเอาต์พุต Firefly)


Adobe จะไม่รับผิดชอบต่อรูปร่างตัวอักษรหรืออักขระที่ใช้เอฟเฟ็กต์ข้อความ ไม่ว่าจะเป็นเพียงรายการเดียวหรือหลายรายการรวมกัน

ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2024

ข้อความเป็นกราฟิกแบบเวกเตอร์

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่พรอมต์แบบข้อความเพื่อสร้างเอาต์พุตในรูปแบบไฟล์เวกเตอร์ได้

ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2025

แปลเสียง แปลวิดีโอ และแปลและ Lip sync

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงพร้อมคำพูดและเลือกภาษาเป้าหมายได้ สร้างเสียงที่แปลแล้วซึ่งจำลองเสียงของผู้พูดเดิม เมื่อเปิดใช้งาน Lip sync ริมฝีปากของผู้พูดในวิดีโอจะได้รับการปรับให้ตรงกับเสียงที่แปลด้วย

 

Adobe ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของบริษัทอื่นในการแปลข้อความจากผู้พูดเป็นข้อความ

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025

Generative Extend

ทำให้ผู้ใช้สามารถขยายวิดีโอที่มีอยู่ให้มีเฟรมและเสียงเพิ่มเติม

ณ วันที่ 24 เมษายน 2025

แปลงข้อความเป็นวิดีโอและแปลงรูปภาพเป็นวิดีโอ

แปลงข้อความเป็นวิดีโอและแปลงรูปภาพเป็นวิดีโอ

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่พรอมต์แบบข้อความและ/หรือพรอมต์แบบรูปภาพเพื่อสร้างเอาต์พุตเป็นไฟล์วิดีโอได้

ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2025

แปลงข้อความเป็นอวาตาร์

อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเขียนสคริปต์และเลือกอวาตาร์เสมือนจริงที่มีรูปลักษณ์ สไตล์เสียง และสำเนียงที่โดดเด่นได้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งพื้นหลังโดยใช้สี รูปภาพ หรือวิดีโอได้ตามต้องการ แปลงข้อความเป็นอวาตาร์ได้รับการออกแบบมาเพื่อการเล่าเรื่อง การสื่อสาร และการสร้างต้นแบบเนื้อหาที่สร้างสรรค์

 

ผู้ใช้เป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อเนื้อหาของบทพูดที่ตนเองจัดเตรียม

ณ วันที่ 30 กันยายน 2025

แปลงข้อความเป็นเอฟเฟ็กต์เสียงและแปลงเสียงพูดเป็นเอฟเฟ็กต์เสียง

ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใส่พรอมต์ข้อความหรือการบันทึกเสียง จากนั้นให้ผลลัพธ์ในรูปแบบเอฟเฟ็กต์เสียงที่สร้างขึ้น

(1) ไม่รวม (ก) ความสามารถใดๆ ที่ Adobe อาจพัฒนาซึ่งระบุไว้ในอินเทอร์เฟซผู้ใช้ว่าขับเคลื่อนหรือจัดทำโดยโมเดลที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมจาก Adobe และ (ข) คุณสมบัติใดๆ ที่กำหนดว่าเป็นรุ่น "Beta" หรือ "ทดลองใช้" หรือเข้าถึงได้ภายในพื้นที่ที่ติดป้ายว่า "Beta" หรือ "ทดลองใช้" โดยคุณสมบัติอาจไม่พร้อมใช้งานในทุกพื้นที่

 

พื้นผิว Firefly ที่เข้าเกณฑ์ (1)

การดำเนินการส่งออกภายในพื้นผิว Firefly ที่เข้าเกณฑ์

  • เว็บไซต์ Firefly (firefly.adobe.com)
  • เว็บไซต์ Adobe Stock (stock.adobe.com) (2)
  • แอปพลิเคชันมือถือ Firefly สำหรับ iOS และ Android

เมื่อผู้ใช้ที่ลงทะเบียนภายใต้ SKU หรือแผนที่มีสิทธิ์ทำการดาวน์โหลดเอาต์พุตจาก Firefly

  • Adobe Express
  • Photoshop
  • Photoshop Web
  • Illustrator
  • InDesign
  • Lightroom
  • Premiere Pro
  • Premiere สำหรับ iOS

เมื่อผู้ใช้ที่ลงทะเบียนภายใต้ SKU หรือแผนที่มีสิทธิ์คลิก 'ดาวน์โหลด' หรือส่งออกเนื้อหาด้วยวิธีอื่น (เช่น โพสต์ไปยังบริการโซเชียลมีเดีย บันทึกหรือส่งออกเป็น .png เป็นต้น)

 

ไม่รวม: "การวางตำแหน่ง" ของเอาต์พุต Firefly บนผืนผ้าใบก่อนที่โปรเจ็กต์จะถูกส่งออกจากแพลตฟอร์มโดยผู้ใช้ที่ลงทะเบียนภายใต้ SKU หรือแผนที่มีสิทธิ์


ตัวอย่าง: หากผู้ใช้ A สร้างเอาต์พุต Firefly แล้วนำไปวางลงในโปรเจค Adobe Express และผู้ใช้ B ได้ส่งออกโปรเจค Adobe Express จะถือว่าผู้ใช้ B เป็นผู้ใช้ที่ดำเนินการส่งออก

  • Firefly API

เมื่อผู้ใช้ที่ลงทะเบียนภายใต้ SKU หรือแผนที่มีสิทธิ์ใช้การดำเนินการ (เมตริกชี้วัดการเรียกเก็บเงินสำหรับการเรียก API) และดาวน์โหลดเอาต์พุตจาก Firefly

(1) เราไม่รับประกันว่าคุณสมบัติ Firefly ที่เข้าเกณฑ์จะใช้งานได้ในทุกพื้นที่
(2) อาจต้องใช้เครดิต Adobe Stock

 


ข้อมูลสำหรับลูกค้าองค์กร

Adobe อาจอัปเดตส่วนนี้เป็นครั้งคราว

 

เครดิต AI

เครดิต AI จะช่วยให้สามารถดำเนินการประมวลผลเนื้อหา AI เชิงสร้างสรรค์ ในทุกฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนโดย Firefly ได้ก่อน ในแอปพลิเคชันที่คุณมีสิทธิ์ โดยผู้ใช้แต่ละรายในแผนสำหรับองค์กรแบบชำระเงินจะได้รับการจัดสรรเครดิต AI เป็นจำนวนหนึ่งต่อเดือน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแผน เรียนรู้เพิ่มเติม

ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้จนถึงจำนวนสูงสุดของเครดิต AI ที่จัดสรรให้ในแต่ละเดือน โดยการจัดสรรเครดิต AI แบบรายเดือนนี้จะรีเซ็ตทุกๆ เดือน และเครดิตที่ไม่ได้ใช้จะไม่ส่งต่อไปยังเดือนถัดไป เครดิต AI จะไม่สามารถนำมารวมกันหรือแชร์กันระหว่างผู้ใช้หลายรายได้ การจัดสรรรายเดือนดังกล่าวจะมีไว้สำหรับผู้ใช้แต่ละรายเท่านั้น

Adobe อาจใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการจำกัดอัตราการออกแบบเพื่อป้องกันการใช้คุณสมบัติ Firefly ในทางที่ผิดหรือมากเกินไป

 

อินพุต

Adobe อาจบล็อกอินพุตที่ผู้ใช้ป้อนให้คุณสมบัติ AI เชิงสร้างสรรค์โดยอัตโนมัติหากเชื่อว่ามีการละเมิดสิทธิ์ของบุคคลที่สาม กฎหมายที่บังคับใช้ หรือข้อตกลงของลูกค้ากับ Adobe โดยจะเป็นไปตามดุลยพินิจของ Adobe แต่เพียงผู้เดียว

 

เอาต์พุต

เอาต์พุตที่สร้างขึ้นโดยคุณสมบัติ AI เชิงสร้างสรรค์ อาจไม่ใช่ผลงานที่ไม่ซ้ำกับผู้อื่น และผู้ใช้คุณสมบัติ AI เชิงสร้างสรรค์ รายอื่นอาจสามารถสร้างเอาต์พุตที่เหมือนกันหรือคล้ายกันได้ ตัวอย่างเช่น ในกรณีซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อย ที่ผู้ใช้สองคนพิมพ์ข้อความพรอมต์ที่เหมือนกัน และการค้นหาพรอมต์มี "ซี้ด" (ตัวแปรในการสุ่ม) เดียวกันจากตัวเลือกหลายพันล้านตัวเลือก ในกรณีเช่นนี้ คุณสมบัติ AI เชิงสร้างสรรค์ อาจเอาต์พุตเนื้อหาที่เหมือนกันหรือคล้ายกันมากขึ้นมาได้

 

Content Credentials

เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ Adobe ในการส่งเสริมความโปร่งใสด้านการใช้งานเครื่องมือ AI เชิงสร้างสรรค์ในการสร้างสื่อต่างๆ Adobe จะใช้งาน Content Credentials เมื่อมีผู้ดาวน์โหลดหรือส่งออกเนื้อหาหรือโครงการที่มีแอสเซทที่สร้างจาก Firefly เรียนรู้เพิ่มเติม

Adobe, Inc.

รับความช่วยเหลือได้เร็วและง่ายกว่าเดิม

หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่