คู่มือผู้ใช้ ยกเลิก

Adobe Content Authenticity (Beta)

  1. คู่มือผู้ใช้ Creative Cloud
  2. ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Creative Cloud
    1. คำถามทั่วไป | Creative Cloud
    2. ความต้องการของระบบ Creative Cloud
    3. การซิงค์ไฟล์ Creative Cloud | ปัญหาที่ทราบ
  3. ดาวน์โหลด ติดตั้ง ตั้งค่า และอัปเดต
    1. ดาวน์โหลดแอป Creative Cloud
    2. เปิดแอป Creative Cloud
    3. เริ่มพื้นที่ทำงาน
    4. อัปเดตแอป Creative Cloud
    5. เปลี่ยนภาษาของแอป Creative Cloud ของคุณ
    6. ถอนการติดตั้งแอปพลิเคชันเดสก์ท็อป Creative Cloud
    7. ถอนการติดตั้งหรือลบแอป Creative Cloud ออก
  4. จัดการบัญชีของคุณ
    1. แปลงการทดลองใช้ Creative Cloud เป็นการเป็นสมาชิกแบบชำระเงิน
    2. รีเซ็ตรหัสผ่าน Adobe ของคุณ
    3. เปลี่ยนแผน Adobe ของคุณ
    4. อัปเดตบัตรเครดิตและที่อยู่สำหรับการเรียกเก็บเงิน
    5. ดู ดาวน์โหลด หรือส่งอีเมลใบแจ้งหนี้ Adobe ของคุณ
    6. แก้ไขการชำระเงินที่ไม่ทันเวลาหรือไม่สำเร็จ
    7. ยกเลิกการทดลองใช้หรือการสมัครใช้งาน Adobe
  5. บริการสร้างสรรค์
    1. การใช้ Adobe Stock ในแอป Creative Cloud
    2. การใช้ Adobe Fonts ในแอป Creative Cloud
    3. Creative Cloud Market ไม่มีให้บริการอีกต่อไป
  6. การทำงานร่วมกันและบริการพื้นที่เก็บข้อมูล
    1. เอกสารระบบคลาวด์คืออะไร
    2. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเอกสารระบบคลาวด์
    3. สร้างหรือแปลงไฟล์เป็นเอกสารระบบคลาวด์
    4. ตั้งค่าเอกสารระบบคลาวด์เพื่อใช้งานแบบออฟไลน์
    5. เปลี่ยนกลับเอกสารระบบคลาวด์เป็นเวอร์ชันก่อนหน้า
    6. แชร์งานของคุณเพื่อรับความคิดเห็น
    7. เหตุใดฉันจึงไม่เห็นเอกสารระบบคลาวด์ของฉันแบบออฟไลน์
    8. Creative Cloud Libraries
    9. ทำงานร่วมกันบน Creative Cloud Libraries และโฟลเดอร์
    10. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน
    11. ซิงค์ไฟล์ของคุณโดยใช้พื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์
    12. ดูว่าคุณมีพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์เท่าใด
    13. ตั้งค่าตัวเลือกการซิงค์
    14. การยุติการให้บริการไฟล์ที่ซิงค์ Creative Cloud
    15. ดาวน์โหลดไฟล์และเนื้อหาที่ซิงค์
  7. โปรเจกต์
    1. ภาพรวมของโปรเจกต์
    2. สร้างโปรเจกต์
    3. แชร์โปรเจกต์
    4. สร้างโฟลเดอร์และไลบรารีใหม่
    5. ย้ายโฟลเดอร์และไลบรารี
  8. จัดระเบียบไลบรารี
    1. สร้างกลุ่มในไลบรารี
    2. ลบกลุ่มในไลบรารี
    3. ลบองค์ประกอบในไลบรารี
    4. ย้ายองค์ประกอบในไลบรารี
  9. แอปพลิเคชันมือถือ Creative Cloud
    1. คำถามทั่วไป | แอปพลิเคชันมือถือ
    2. Adobe Creative Cloud สำหรับมือถือ
  10. องค์กรและทีม
    1. การเรียนรู้และการสนับสนุนขององค์กร
    2. การเรียนรู้และการสนับสนุนของทีม
    3. คู่มือเริ่มต้นใช้งานด่วนสำหรับสมาชิกในทีม
  11. Adobe Content Authenticity
    1. Adobe Content Authenticity (Beta)
    2. เครื่องมือตรวจสอบสำหรับ Adobe Content Authenticity (Beta)
    3. ส่วนขยายเบราว์เซอร์ Chrome สำหรับ Adobe Content Authenticity
    4. การฝึกอบรมและการตั้งค่าการใช้งาน Generative AI ของ Content Credentials

นำไปใช้ ปรับแต่ง และตรวจสอบ Content Credential ทั้งหมดได้ในที่เดียว

Adobe Content Authenticity (Beta) เป็นเว็บแอปที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำไปใช้ ปรับแต่ง และตรวจสอบ Content Credential ได้ Adobe Content Authenticity สามารถช่วยคุณในการปกป้องผลงานของคุณและทำให้ผู้คนจดจำงานของคุณได้ แถมยังช่วยให้คุณแจ้งกับโมเดล Generative AI ไม่ให้ใช้ผลงานของคุณเพื่อการฝึกอบรมหรือเป็นอินพุตเพื่อช่วยสร้างเนื้อหาใหม่ได้อีกด้วย  การตรวจสอบ Content Credential ด้วยเครื่องมือการตรวจสอบของ Adobe สามารถให้บริบทเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้อหาชิ้นหนึ่งได้ เช่น ใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นอย่างไร  

ในปัจจุบัน Adobe Content Authenticity (Beta) สามารถใช้งานได้ฟรีด้วยบัญชี Adobe สำหรับบุคคลของคุณ

รูปภาพจะแสดงหน้าแรกของ Adobe Content Authenticity (Beta)
หน้าแรกของ Adobe Content Authenticity (Beta)

การนำ Content Credential ไปใช้

เมื่อใช้ Adobe Content Authenticity (Beta) คุณสามารถนำไปใช้และตรวจสอบ Content Credential ได้ การนำ Content Credential ไปใช้ก็เหมือนกับการเซ็นลายเซ็นลงในผลงานของคุณ ซึ่งเป็นการบ่งบอกให้ผู้ชมทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณและเนื้อหาของคุณ เครื่องมือการตรวจสอบของ Adobe สามารถช่วยให้คุณดูข้อมูลนี้และบริบทอื่นเกี่ยวกับไฟล์หรือภาพหน้าจอที่เลือกได้

เมื่อใช้ Adobe Content Authenticity (Beta) คุณสามารถนำข้อมูลต่างๆ ซึ่งรวมถึงโปรไฟล์โซเชียลของคุณ และการฝึกอบรมและการตั้งค่าการใช้งาน Generative AI ไปใช้ได้อย่างง่ายดาย   

ซึ่งช่วยคุณในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้ได้:

  • เลือกไฟล์: อัปโหลดไฟล์สูงสุด 50 ไฟล์จากอุปกรณ์ของคุณได้ในครั้งเดียว ไฟล์ที่รองรับต้องเป็นรูปแบบ JPG หรือ PNG เท่านั้น และแต่ละไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 20MB 
  • ปรับแต่งข้อมูล: เลือกข้อมูลที่คุณจะรวมไว้ใน Content Credential ของคุณ การตั้งค่าของคุณจะถูกบันทึกไว้สำหรับครั้งต่อไป และคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ระหว่างการอัปโหลด คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Content Credential ของคุณหลังจากที่นำไปใช้กับงานของคุณแล้วได้ 
  • ดาวน์โหลด: คุณจะได้รับโฟลเดอร์ zip ที่มีไฟล์เวอร์ชันใหม่ที่คุณเลือกจากอุปกรณ์ของคุณ โดยมี Content Credential แนบไปกับไฟล์แต่ละไฟล์ เฉพาะเวอร์ชันใหม่ของไฟล์ของคุณเท่านั้นที่จะมีการนำ Content Credential ไปใช้ ดังนั้นอย่าลืมใช้ Content Credential เหล่านี้เมื่อคุณเผยแพร่และแชร์ไฟล์
หมายเหตุ:
  • ทนทานและเชื่อมต่อกัน: Content Credential จาก Adobe Content Authenticity (Beta) จะถูกเก็บไว้ในงานของคุณโดยตรง และใน Content Credential ระบบคลาวด์แบบสาธารณะของ Adobe ซึ่งจะยังคงเชื่อมต่อกับงานของคุณต่อไปแม้หลังจากที่คุณนำไปใช้แล้ว โดยอาศัยการผสมผสานระหว่างข้อมูลเมตาที่ฝังไว้ ลายน้ำที่มองไม่เห็น และเทคโนโลยีลายนิ้วมือดิจิทัล ซึ่งช่วยให้แน่ใจว่า Content Credential ของคุณสามารถเชื่อมโยงกับเนื้อหาของคุณได้อีกครั้ง แม้ว่าข้อมูลเมตาจะสูญหายไปเมื่อคุณอัปโหลดเนื้อหาของคุณไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รองรับ Content Credential และลบข้อมูลเมตาออกจากไฟล์ที่อัปโหลด ในการรักษาระดับการปกป้องที่สูงนี้ไว้ ในปัจจุบันไม่มีวิธีใดที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Content Credential ของคุณได้หลังจากที่คุณนำไปใช้กับไฟล์ของคุณแล้ว 
  • นำไปใช้ก่อนการเผยแพร่: ไม่สามารถนำ Content Credential ไปใช้กับเนื้อหาที่เผยแพร่ทางออนไลน์แล้วได้ หากคุณโพสต์รูปถ่ายบนเว็บไซต์ คุณจะไม่สามารถเพิ่ม Content Credential ลงในรูปถ่ายสดนั้นได้ คุณต้องนำ Content Credential ไปใช้กับไฟล์ก่อนที่จะเผยแพร่

การปรับแต่ง Content Credential

Adobe Content Authenticity (Beta) ช่วยให้คุณสามารถใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของคุณและการฝึกอบรมและการตั้งค่าการใช้งาน Generative AI ไว้ใน Content Credential ที่คุณนำไปใช้ได้ ข้อมูลต่อไปนี้สามารถรวมอยู่ใน Content Credential ที่นำไปใช้กับงานของคุณจาก Adobe Content Authenticity (Beta) ได้: 

  • บัญชีโซเชียลมีเดีย: การรวมโปรไฟล์เหล่านี้จะช่วยให้บุคคลที่ดูเนื้อหาของคุณค้นพบผลงานอื่นๆ ที่คุณสร้างขึ้นได้ ขณะนี้รองรับ Behance, Instagram, LinkedIn และ X (Twitter) และสามารถเชื่อมต่อได้โดยการลงชื่อเข้าใช้โปรไฟล์ของคุณ การเชื่อมต่อกับโปรไฟล์โซเชียลมีเดียของคุณช่วยให้คุณแสดงโปรไฟล์เหล่านั้นใน Content Credential ของคุณได้เท่านั้น และไม่ได้อนุญาตให้เผยแพร่ไปยังโปรไฟล์เหล่านั้น 
รูปภาพจะแสดงแอปโซเชียลมีเดียที่รองรับ พร้อมทั้งตัวเลือกในการแสดงตัวอย่าง Content Credential ของคุณ
แอปโซเชียลมีเดียที่รองรับ

  • การฝึกอบรมและการตั้งค่าการใช้งาน Generative AI: Adobe จะไม่ฝึกอบรมโมเดล Generative AI ของ Firefly ด้วยเนื้อหาของคุณหรือเนื้อหาที่ไม่ได้รับสิทธิ์การใช้งาน ทั้งนี้ บางโมเดลอาจไม่ได้ยึดตามแนวทางเดียวกันนี้ นั่นคือเหตุผลที่เราขับเคลื่อนการพัฒนาของมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมที่ช่วยให้คุณแจ้งกับโมเดลอื่นๆ ได้ว่าคุณไม่ต้องการให้เนื้อหาของคุณถูกใช้ในการฝึกอบรมหรือการสร้าง Generative AI โมเดลที่รองรับการตั้งค่านี้จะไม่ฝึกอบรมด้วยหรือใช้งานของคุณ 
  • ชื่อ (เร็วๆ นี้): ในเร็วๆ นี้ คุณจะสามารถใส่ชื่อของคุณลงใน Content Credential ของคุณหลังจากที่คุณยืนยันตัวตนผ่านหนึ่งในพันธมิตรการยืนยันตัวตนของ Adobe ได้ฟรี 

การดู Content Credential แบบออนไลน์

เมื่อคนอื่นๆ ดู Content Credential ของคุณทางออนไลน์ Content Credential ของคุณจะแสดงข้อมูลที่คุณเลือกในขณะที่นำ Content Credential ดังกล่าวไปใช้ Content Credential ยังรวมถึงชื่อของผู้ออก Content Credential (Adobe, Inc. สำหรับแอปและบริการของ Adobe ทั้งหมด) และวันที่ออก เครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง Content Credential และปุ่มตรวจสอบที่ช่วยให้คนอื่นๆ ดู Content Credential ของคุณโดยละเอียดในเครื่องมือการตรวจสอบของ Adobe ได้ 

รูปภาพจะแสดงรายละเอียดของตัวเลือกที่มีบนหน้าจอ Content Credentials เช่น ชื่อผู้ออก วันที่ออก และปุ่มตรวจสอบ
รายละเอียดของตัวเลือกที่แสดง

ความช่วยเหลือและแหล่งข้อมูล

การแก้ไขปัญหา

รับความช่วยเหลือได้เร็วและง่ายกว่าเดิม

หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่