คู่มือผู้ใช้ ยกเลิก

Named User Licensing | Deployment guide

  1. Adobe Enterprise & Teams: คู่มือการดูแลระบบ
  2. วางแผนการปรับใช้ของคุณ
    1. แนวคิดพื้นฐาน
      1. การให้สิทธิ์การใช้งาน
      2. เอกลักษณ์
      3. การจัดการผู้ใช้
      4. การปรับใช้แอป
      5. ภาพรวม Admin Console
      6. บทบาทของผู้ดูแลระบบ
    2. คู่มือการปรับใช้
      1. คู่มือการปรับใช้ผู้ใช้ที่ระบุชื่อ
      2. คู่มือการปรับใช้ SDL
      3. ปรับใช้ Adobe Acrobat 
    3. ปรับใช้ Creative Cloud สำหรับการศึกษา
      1. หน้าแรกของการปรับใช้
      2. ตัวช่วยสร้างการเริ่มต้นใช้งานสำหรับ K-12
      3. การตั้งค่าแบบง่าย
      4. การซิงค์ผู้ใช้
      5. Roster Sync K-12 (สหรัฐอเมริกา)
      6. แนวคิดหลักๆ ของการให้สิทธิ์การใช้งาน
      7. ตัวเลือกการปรับใช้
      8. เคล็ดลับง่ายๆ
      9. อนุมัติแอป Adobe ใน Google Admin Console
      10. เปิดใช้งาน Adobe Express ใน Google Classroom
      11. การผสานการทำงานกับ Canvas LMS
      12. การผสานการทำงานกับ Blackboard Learn
      13. การกำหนดค่า SSO สำหรับพอร์ทัลเขตและ LMS
      14. เพิ่มผู้ใช้ผ่าน Roster Sync
      15. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Kivuto
      16. แนวทางคุณสมบัติของสถาบันประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
  3. ตั้งค่าองค์กรของคุณ
    1. ประเภทเอกลักษณ์ | ภาพรวม
    2. ตั้งค่าเอกลักษณ์ | ภาพรวม
    3. ตั้งค่าองค์กรด้วย Enterprise ID
    4. ตั้งค่าการรวมและการซิงค์ Azure AD
      1. ตั้งค่า SSO ด้วย Microsoft ผ่าน Azure OIDC
      2. เพิ่ม Azure Sync ไปยังไดเรกทอรีของคุณ
      3. การซิงค์บทบาทสำหรับการศึกษา
      4. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับตัวเชื่อมต่อ Azure
    5. ตั้งค่าการรวมและการซิงค์ Google
      1. ตั้งค่า SSO ด้วยการรวม Google
      2. เพิ่ม Google Sync ไปยังไดเรกทอรีของคุณ
      3. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรวม Google
    6. ตั้งค่าองค์กรด้วย Microsoft ADFS
    7. ตั้งค่าองค์กรสำหรับพอร์ทัลเขตและ LMS
    8. ตั้งค่าองค์กรด้วยผู้ให้บริการเอกลักษณ์รายอื่น
      1. สร้างไดเรกทอรี
      2. ยืนยันความเป็นเจ้าของโดเมน
      3. เพิ่มโดเมนไปยังไดเรกทอรี
    9. คำถามทั่วไปและการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ SSO
      1. คำถามทั่วไปเกี่ยวกับ SSO
      2. การแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ SSO
      3. คำถามทั่วไปเกี่ยวกับการศึกษา
  4. จัดการการตั้งค่าองค์กรของคุณ
    1. จัดการโดเมนและไดเรกทอรีที่มีอยู่
    2. เปิดใช้งานการสร้างบัญชีอัตโนมัติ
    3. ตั้งค่าองค์กรผ่านการเชื่อถือไดเรกทอรี
    4. โยกย้ายไปยังผู้ให้บริการการรับรองความถูกต้องรายใหม่ 
    5. การตั้งค่าแอสเซท
    6. การตั้งค่าการรับรองความถูกต้อง
    7. ผู้ติดต่อเพื่อความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
    8. การตั้งค่าคอนโซล
    9. จัดการการเข้ารหัส  
  5. จัดการผู้ใช้
    1. ภาพรวม
    2. บทบาทการดูแลระบบ
    3. กลยุทธ์การจัดการผู้ใช้
      1. จัดการผู้ใช้เป็นรายบุคคล   
      2. จัดการผู้ใช้หลายราย (CSV เป็นกลุ่ม)
      3. เครื่องมือซิงค์ผู้ใช้ (UST)
      4. Microsoft Azure Sync
      5. Google Federation Sync
    4. มอบหมายสิทธิ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ระดับทีม
    5. เพิ่มผู้ใช้ที่มีโดเมนอีเมลที่ตรงกัน
    6. เปลี่ยนประเภทเอกลักษณ์ของผู้ใช้
    7. จัดการกลุ่มผู้ใช้
    8. จัดการผู้ใช้ไดเรกทอรี
    9. จัดการผู้พัฒนา
    10. โยกย้ายผู้ใช้ปัจจุบันไปยัง Adobe Admin Console
    11. โยกย้ายการจัดการผู้ใช้ไปยัง Adobe Admin Console
  6. จัดการผลิตภัณฑ์และสิทธิ์
    1. จัดการผลิตภัณฑ์และโปรไฟล์ผลิตภัณฑ์
      1. จัดการผลิตภัณฑ์
      2. ซื้อผลิตภัณฑ์และสิทธิ์การใช้งาน
      3. จัดการโปรไฟล์ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้ระดับองค์กร
      4. จัดการกฎการมอบหมายอัตโนมัติ
      5. ให้สิทธิ์ผู้ใช้ในการฝึกโมเดล Firefly แบบกำหนดเอง
      6. ตรวจสอบคำขอผลิตภัณฑ์
      7. จัดการนโยบายการบริการตนเอง
      8. จัดการการผสานการทำงานแอป
      9. จัดการสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ใน Admin Console  
      10. เปิดใช้งาน/ปิดใช้งานบริการสำหรับโปรไฟล์ผลิตภัณฑ์
      11. Single App | Creative Cloud สำหรับองค์กร
      12. บริการเสริม
    2. จัดการสิทธิ์การใช้งานอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน
      1. มีอะไรใหม่
      2. คู่มือการปรับใช้
      3. สร้างแพ็คเกจ
      4. กู้คืนสิทธิ์การใช้งาน
      5. จัดการโปรไฟล์
      6. ชุดเครื่องมือการให้สิทธิ์การใช้งาน
      7. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการให้สิทธิ์การใช้งานอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน
  7. เริ่มต้นใช้งาน Global Admin Console
    1. ใช้การดูแลระบบทั่วโลก
    2. เลือกองค์กรของคุณ
    3. จัดการลำดับชั้นขององค์กร
    4. จัดการโปรไฟล์ผลิตภัณฑ์
    5. จัดการผู้ดูแลระบบ
    6. จัดการกลุ่มผู้ใช้
    7. อัปเดตนโยบายองค์กร
    8. จัดการเทมเพลตนโยบาย
    9. จัดสรรผลิตภัณฑ์ให้กับองค์กรรอง
    10. ดำเนินการงานที่ค้างอยู่
    11. สำรวจข้อมูลเชิงลึก
    12. ส่งออกหรือนำเข้าโครงสร้างองค์กร
  8. จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลและแอสเซท
    1. พื้นที่เก็บข้อมูล
      1. จัดการพื้นที่เก็บข้อมูลขององค์กร
      2. Adobe Creative Cloud: อัปเดตเป็นพื้นที่เก็บข้อมูล
      3. จัดการพื้นที่เก็บข้อมูล Adobe
    2. การโยกย้ายแอสเซท
      1. การโยกย้ายแอสเซทอัตโนมัติ
      2. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการโยกย้ายแอสเซทอัตโนมัติ  
      3. จัดการแอสเซทที่โอน
    3. เรียกคืนแอสเซทจากผู้ใช้
    4. การโยกย้ายแอสเซทของนักเรียน | EDU เท่านั้น
      1. การโยกย้ายแอสเซทของนักเรียนอัตโนมัติ
      2. โยกย้ายแอสเซทของคุณ
  9. จัดการบริการ
    1. Adobe Stock
      1. แพ็คเครดิต Adobe Stock สำหรับทีม
      2. Adobe Stock สำหรับองค์กร
      3. ใช้ Adobe Stock สำหรับองค์กร
      4. การอนุมัติสิทธิ์การใช้งาน Adobe Stock
    2. แบบอักษรที่กำหนดเอง
    3. Adobe Asset Link
      1. ภาพรวม
      2. สร้างกลุ่มผู้ใช้
      3. กำหนดค่า Adobe Experience Manager Assets
      4. กำหนดค่าและติดตั้ง Adobe Asset Link
      5. จัดการแอสเซท
      6. Adobe Asset Link สำหรับ XD
    4. Adobe Acrobat Sign
      1. ตั้งค่า Adobe Acrobat Sign สำหรับองค์กรหรือทีม
      2. Adobe Acrobat Sign - ผู้ดูแลระบบคุณสมบัติของทีม
      3. จัดการ Adobe Acrobat Sign บน Admin Console
    5. Creative Cloud สำหรับองค์กร - การเป็นสมาชิกฟรี
      1. ภาพรวม
  10. ปรับใช้แอปและอัปเดต
    1. ภาพรวม
      1. ปรับใช้และส่งมอบแอปและการอัปเดต
      2. วางแผนการปรับใช้
      3. เตรียมการปรับใช้
    2. สร้างแพ็คเกจ
      1. จัดทำแพ็กเกจแอปผ่าน Admin Console
      2. สร้างแพ็คเกจสิทธิ์การใช้งานของผู้ใช้ที่ระบุชื่อ
      3. เทมเพลต Adobe สำหรับแพ็คเกจ
      4. จัดการแพ็คเกจ
      5. จัดการสิทธิ์การใช้งานของอุปกรณ์
      6. การให้สิทธิ์การใช้งานด้วยหมายเลขซีเรียล
    3. ปรับแต่งแพ็คเกจ
      1. ปรับแต่งแอปเดสก์ท็อป Creative Cloud
      2. รวมส่วนขยายในแพ็คเกจของคุณ
    4. ปรับใช้แพ็คเกจ 
      1. ปรับใช้แพ็คเกจ
      2. ปรับใช้แพ็คเกจ Adobe โดยใช้ Microsoft Intune
      3. ปรับใช้แพ็คเกจ Adobe ด้วย SCCM
      4. ปรับใช้แพ็คเกจ Adobe ด้วย ARD
      5. ติดตั้งผลิตภัณฑ์ในโฟลเดอร์ข้อยกเว้น
      6. ถอนการติดตั้งผลิตภัณฑ์ Creative Cloud
      7. ใช้ Adobe Provisioning Toolkit Enterprise Edition
      8. ตัวระบุการให้สิทธิ์การใช้งาน Adobe Creative Cloud
    5. จัดการการอัปเดต
      1. การจัดการการเปลี่ยนแปลงสำหรับลูกค้าองค์กรและทีมของ Adobe
      2. ปรับใช้การอัปเดต
    6. Adobe Update Server Setup Tool (AUSST)
      1. ภาพรวม AUSST
      2. ตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์การอัปเดตภายใน
      3. ดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์การอัปเดตภายใน
      4. กรณีการใช้งานทั่วไปของ AUSST   
      5. แก้ไขปัญหาเซิร์ฟเวอร์การอัปเดทภายใน
    7. Adobe Remote Update Manager (RUM)
      1. ใช้ Adobe Remote Update Manager
      2. แก้ไขข้อผิดพลาดของ RUM
    8. แก้ไขปัญหา
      1. แก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดในการติดตั้งและการถอนการติดตั้งแอป Creative Cloud
      2. สอบถามเครื่องไคลเอ็นต์เพื่อตรวจสอบว่ามีการปรับใช้แพ็คเกจหรือไม่
      3. ข้อความแสดงข้อผิดพลาด "การติดตั้งล้มเหลว" ของแพ็คเกจ Creative Cloud
  11. จัดการบัญชีสำหรับทีมของคุณ
    1. ภาพรวม
    2. อัปเดตรายละเอียดการชำระเงิน
    3. จัดการใบแจ้งหนี้
    4. เปลี่ยนเจ้าของสัญญา
    5. เปลี่ยนแผนของคุณ
    6. เปลี่ยนตัวแทนจำหน่าย
    7. ยกเลิกแผนของคุณ
    8. การปฏิบัติตามข้อกำหนดของคำขอซื้อ
    9. จัดการทีมของคุณใน Adobe Express
  12. การต่ออายุ
    1. การเป็นสมาชิกทีม: การต่ออายุ
    2. Enterprise ใน VIP: การต่ออายุและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
  13. จัดการสัญญา
    1. ขั้นตอนการหมดอายุอัตโนมัติสำหรับสัญญา ETLA
    2. การสลับประเภทสัญญาภายใน Adobe Admin Console ที่มีอยู่แล้ว
    3. Value Incentive Plan (VIP) ในประเทศจีน
    4. ความช่วยเหลือสำหรับ VIP Select
  14. รายงานและบันทึก
    1. บันทึกการตรวจสอบ
    2. รายงานการมอบหมาย
    3. บันทึกเนื้อหา
  15. รับความช่วยเหลือ
    1. ติดต่อฝ่ายดูแลลูกค้าของ Adobe
    2. ตัวเลือกการสนับสนุนสำหรับบัญชีทีม
    3. ตัวเลือกการสนับสนุนสำหรับบัญชีองค์กร
    4. ตัวเลือกการสนับสนุนสำหรับ Experience Cloud

Introduction

Adobe's enterprise offerings let your organization, create, collaborate, and deliver on the web, mobile, or desktop with the latest Adobe apps and services. With centralized license management tools and enterprise-level technical support, your IT function is fully equipped to support creative teams at scale.

If you are planning a Creative Cloud or Document Cloud deployment, take some time and consider how to deploy and manage applications, storage, and services. This article covers all the information you require for planning purposes. There are several topics that must consider when you plan your deployment.

  • License deployment
  • Identity management
  • Applications and updates
  • Storage and services
  • Users, product profiles, and licenses
  • Migrating existing users

License management

When you purchase a product from Adobe, a license represents your right to use Adobe software and services. Licenses are used to authenticate and activate the products on the end user's computers.

For more information, see Licensing overview.

Licensing methods

Named user license

Named licensing is useful in the following scenarios:

  • If you want to provide access to Adobe-hosted services.
  • If you want to use Adobe Admin Console for centralized license and compliance management.
  • If you require flexible licensing over time, for example, a designer moving from a video product profile to a web product profile.
  • If you want to enable self-service workflows for users to acquire apps and updates.

Automatically created packages are readily available for download from the Admin Console. Packages are created based on default settings and purchased products and can be downloaded and deployed as is. For more information, see Packaging apps using the Admin Console.

Shared device licensing

Shared Device Licensing is a licensing method targeted at educational institutions where software is assigned to a device instead of an individual. Anyone who logs onto the device will have access to Adobe's products and services.

Shared Device Licensing is ideal for desktop computer labs and classrooms. For example, you can install Creative Cloud apps in your computer labs to allows students and teachers, with access to these computers, to use the apps and services that are available as part of your license agreement with Adobe.

Serial number licensing

Serial Number licensing is a historical method of licensing that is not tied to an individual user but to a particular computer. This licensing method is suitable for a very small number of customers and, as with named licensing, can be used to create pre-licensed packages that are deployed remotely. However, when using serial number licensing, customers do not receive the complete value from their Adobe Cloud subscription.

License migration

Device license to Shared device license

Serial number license to named user license

Named licensing provides several advantages as compared to anonymous or Serial number licensing. Administrators can closely track and monitor the usage of licenses. They can also centrally manage licenses assigned to a user and revoke access to apps and services, without a need to redeploy packages. Named license can also enable self-service workflows to let customers download and install products and updates. Named licenses also enable end users to use cloud services, such as add fonts from Adobe Fonts, choose file sync locations, and share and gather feedback on Behance.

Identity management

Adobe uses an underlying identity management system to authenticate and authorize users. If you're using named licensing or are planning to provide access to services, using identities is a requirement. Adobe supports three identity or account types; they use an email address as the user name. These identity types are:

  • Federated ID: Created, owned, and managed by an organization and linked to the enterprise directory via federation. The organization manages credentials and processes Single Sign-On via a SAML2 Identity Provider (IdP).
  • Enterprise ID: Created, owned, and managed by an organization. Adobe hosts the Enterprise ID and performs authentication, but the organization maintains the Enterprise ID.
  • Adobe ID: Created, owned, and managed by the end user. Adobe performs the authentication, and the end user manages the identity.

Based on your organizational needs, you can select the most appropriate identity model to implement and use.

You can use Federated IDs, Enterprise IDs, and Adobe IDs in the same enterprise deployment. Remember, when you set up an account using Adobe ID, end users retain complete control over files and data associated with this account. When you use a Federated ID or an Enterprise ID, it is the enterprise that owns and controls this content.

Adobe recommends admins to migrate Adobe ID users to Federated and Enterprise IDs to provide organizations complete control over users and application assets.

หมายเหตุ:

Adobe Licensing Website does not support Enterprise or Federated IDs. If you are planning to use serial number licensing, set up all administrator accounts using Adobe IDs. For user accounts, Adobe recommends using Federated and Enterprise IDs.

Set up a directory

A directory in the Admin Console is an entity that holds resources such as users and policies like authentication. These directories are similar to LDAP or Active Directories.

For more information, see Set up identity.

Set up domains

User identities are verified against an authorization source. To use Federated ID or Enterprise ID, set up your own authorization source by adding a domain. For example, if your email address is john@example.com, example.com is your domain. Adding a domain permits the creation of Federated IDs or Enterprise IDs with email addresses on the domain. A domain can be used either with Federated IDs or Enterprise IDs, but not both. You can however add multiple domains.

An organization must demonstrate their control over a domain. An organization can also add multiple domains. However, a domain can be added only once. Known public and generic domains, such as gmail.com or yahoo.com cannot be added at all.

For more information, see Set up domains.

Configure Single Sign-On

The Adobe Admin Console offers a method for enterprise users to authenticate using their existing corporate identity. Adobe Federated IDs enable integration with a Single Sign-On (SSO) identity management system. Single Sign-On is enabled using SAML, an industry-standard protocol that connects enterprise identity management systems to cloud service providers like Adobe.

When you add users with Federated IDs, automatic emails are not sent to the users. You must plan and communicate with users when you create Federated IDs. If users already have Adobe IDs that use the same email address, see Sign in with an enterprise ID to understand the sign-in procedure and the impact it has on their existing content and application.

If your organization wants to test the SSO integration, you can claim a test domain that you own. Your organization must have an Identity Provider with identities set up in that test domain. This process allows you to test the integration before you claim the main domains, until you feel comfortable with the domain claim and configuration process.

For more information, see Configure Single-Sign On.

Users, product profiles, and licenses

For Named licenses, Product Profiles are used to associate licenses with individual users. To assign licenses, add users to a Product Profile. A user can be a member of multiple Product Profiles, and each Product Profile can confer different licenses to the user. The final eligibility of a user is the union of all licenses conferred by each Product Profile.

Consider how to deliver sets of licenses in a way that fits how users are assigned responsibilities in your organization. For example, if all the users in a department need Photoshop, you can create a department Product Profile which confers Photoshop Single App. However, if in a department, web designers need Photoshop and Dreamweaver, while video editors need Premiere Pro and After Effects, use two Product Profiles- one for the Web Designer role, and one for the Video Editor role.

Some users play multiple roles. A user who performs both web design and a video editing can be added to both Product Profiles, conferring the union of licenses from each Product Profile, that is Photoshop, Dreamweaver, Premiere Pro and After Effects.

Product Profiles also make it easy to manage licenses. When users move from a web design role to a video editing role, add the users to the video editing Product Profile and remove them from the web design Product Profile. This changes the activated products for the user and frees up licenses. When Product Profile requirements change - for example, when the video editing Product Profile needs to use Prelude, it can be added to the video editing Product Profile and all users immediately get access to Prelude.

A license is consumed when a user is added to a Product Profile. If a user is a member of two Product Profiles and both confer a license to Photoshop Single App, the user consumes two licenses. To eliminate redundant consumption of licenses, design your Product Profiles. Identify each Product Profile that needs a particular application or set of applications to do their job.

Identify the following:

  • Products: The licenses for a product govern which applications and services are conferred to each member of an associated Product Profile.
  • Product Profile name: Identify each Product Profile. The labels you choose to identify the Product Profiles are for your own use only. They are not included anywhere in the deployment package, so there are no restrictions on how you name them. In practice, it is better to create Product Profiles based on function, rather than departments or teams. 
  • Services: Choose from the available list of services for a selected product. For example, Creative Cloud for enterprise includes services such as Adobe Fonts and PDF services.
  • Users: Identify the users to add to each Product Profile.

Read more about how to manage products and product profiles.

Deploy apps and updates

Adobe delivers continuous innovation in the form of features and updates. IT admins can decide how and when these updates are applied. Decide how to deliver these apps and updates to your end users. At this stage, also consider the hardware and software requirements of client computers. Adobe enterprise offerings provide several levels of control on deploying apps and updates. IT admins can choose between empowering users via a self-service workflow or they can opt for a more managed environment where admins can decide what, when, and how products and features get installed.

Apps

Self-service

Like millions of Adobe users, you can allow your users to download and install apps themselves. Users can sign in to www.adobe.com and download and install the desktop apps and access services. Self-service workflows require admin privileges, Internet connections, and Named licensing. Include the Creative Cloud desktop app in the software package that you deploy.

Self-service workflows enable users to download and install apps as and when required. Apps that a user is entitled to get, are provisioned when the user signs in. Other apps can be used as a trial for a limited time. This also frees up admins from creating and deploying multiple packages and updates. For example, self-service workflows are efficient in the following scenarios:

  • You have diverse and changing requirements of apps by different users.
  • Your users have several hardware and operating system combinations.
  • You have remote workers in your organization.
  • Different teams and users upgrade at different times, because of ongoing projects.
  • You want to reduce the initial footprint on a machine by allowing a user to install only the applications they require, and for as long as they require.

Managed delivery

You can create and download pre-configured packages from the Admin Console. These packages can then be deployed to the client machines in your organization. You can perform silent and custom installations. No inputs are required from end users during installation. The deployment packages can be distributed using industry-standard tools:

You can create two types of packages: self-service package and managed delivery package. The self-service package contains the Creative Cloud desktop app, which users can use to download and install software. If end users do not have admin privileges on their computers, you can create a Creative Cloud desktop app package with elevated privileges. Or you can create a managed delivery package that contains specific apps and updates. 

For more information, see Packaging apps using the Admin Console.

For example, you can use managed delivery of apps for the following:

  • To exercise strict control over installed apps on client machines.
  • To reduce Internet bandwidth consumption, by preventing multiple self-service downloads.
  • When there is no Internet access on client computers.
  • To strictly control the versions of installed apps across your organization.
  • To modify the update behavior in installed applications.
For information on packaging and deploying apps, see Deploy and deliver apps and updates.

Updates

There are several mechanisms to deliver app updates available to end users. Choose one of the following based on your organization's need.

Self-service

Users can download and install updates directly from Adobe. This method ensures that your end users have access to the latest updates when they become available. Updates can be downloaded and installed using the Creative Cloud desktop app or using the Adobe Updater included with the apps. For these workflows, the client machines require access to the Adobe servers and admin privileges.

This option is available for both self-service and managed app delivery.

Managed delivery

When you create packages, you can choose a managed update delivery mechanism.

  • Have client machines install updates via an internal update server.
  • Trigger updates remotely using Remote Update Manager. Use this option when client machines don't have admin privileges.
  • Create and deploy Update only packages.

For more information on managed delivery, see Applying updates.

Storage and services

Storage and services are available for all Creative Cloud for enterprise plans. Storage and services are tied to individual users. Access to storage and services requires using either Federated IDs, Enterprise IDs, or Adobe IDs.

When you assign a user to a Product Profile that includes storage and services, you can choose to enable/disable individual services for that Product Profile. Enabling and disabling services defines what the users of the Product Profile can or cannot access.

For more information, see Manage enterprise storage.

Several Creative Cloud services, rely on the availability of storage with the product. If a product does not include storage, these services are also unavailable. Some services are mandatory, and cannot be switched off. For more information, see Enable or disable services.

You can even select restrictive Asset Settings that limit employees from using specific sharing features within Creative Cloud and Document Cloud.

Proxy and firewall settings

For Creative Cloud for enterprise plans, access to named licensing, storage, and services require the client computers to access Adobe servers. For these features to work, ensure that your firewall and proxy setup allows access to Creative Cloud service endpoints. See Creative Cloud for enterprise - Network Endpoints and ensure that users can access the required web services endpoints.

 Adobe

รับความช่วยเหลือได้เร็วและง่ายกว่าเดิม

หากคุณเป็นผู้ใช้ใหม่

Adobe MAX 2024

Adobe MAX
การประชุมความคิดสร้างสรรค์

14-16 ต.ค. Miami Beach และออนไลน์

Adobe MAX

การประชุมความคิดสร้างสรรค์

14-16 ต.ค. Miami Beach และออนไลน์

Adobe MAX 2024

Adobe MAX
การประชุมความคิดสร้างสรรค์

14-16 ต.ค. Miami Beach และออนไลน์

Adobe MAX

การประชุมความคิดสร้างสรรค์

14-16 ต.ค. Miami Beach และออนไลน์